“สิงโต” สัตว์ที่ถือได้ว่าเป็นเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ โดยเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในตระกูลเดียวกับแมว มักจะจับกลุ่มอยู่ด้วยกันเป็นฝูงแถบทวีปแอฟริกาและประเทศอินเดีย หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยว่าสิงโตจะอยู่ที่แอฟริกา แต่จริง ๆ แล้วสิงโตนั้นกระจายอยู่ทั่วโลกรวมทั้งยังมีหลากหลายสายพันธุ์ เมื่อก่อนนั้นถูกจัดให้มี 12 สายพันธุ์ หากปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 8 สายพันธุ์ ได้แก่ สิงโตเอเชีย, สิงโตบาร์บารี, สิงโตแอฟริกา, สิงโตคองโก, สิงโตมาไซ, สิงโตกาตองงา, สิงโตเทรนส์เวล และสิงโตแหลมกูดโฮพ ทางด้านอาหารสิงโตนั้นเป็นสัตว์กินเนื้อที่กินได้แทบทุกชนิดทั้งสัตว์น้ำ สัตว์บก แม้กระทั่งหากมีซากสิงโตด้วยกัน มักจะพบว่าพวกมันอาศัยอยู่ในพื้นที่ซาวันนา ป่าประเภทต่าง ๆ ไปจนถึงกึ่งทะเลทรายป่าทึบ
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสิงโต
- สิงโตเป็นสัตว์ตระกูลแมวใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองมาจากเสือโคร่งไซบีเรีย
- สิงโตเป็นสัตว์ตระกูลแมวเพียงไม่กี่ชนิดที่อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นฝูง
- โดยเฉลี่ยแล้วมันจะนอน 20 ชั่วโมงต่อวัน
- ปกติจะใช้เวลาเดิน 2 ชั่วโมงและกิน 50 นาทีต่อวัน
- การทักทายกันจะสามารถทำได้ด้วยการถูศีรษะ ดุนด้วยจมูกเบาๆ ที่หน้าผาก หน้า และลำคอ
- สิงโตว่ายน้ำเก่ง แต่มันไม่ชอบน้ำ
- สิงโตตัวเมียจะไม่มีแผงคอและตัวเล็กกว่า ซึ่งทำให้มันรวดเร็วและเอื้อต่อการล่าเหยื่อมากกว่าตัวผู้
- สิงโตสามารถอดน้ำได้ดี จึงสามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งได้
- เสียงคำรามของสิงโตดังไกลถึง 5 กิโลเมตร
- สิงโตขาว ไม่ได้ถือเป็นสายพันธุ์แต่เป็นลักษณะพิเศษทางภาวะพันธุกรรมที่เรียกว่าภาวะด่าง
โดยปกติแล้วนั้นสิงโตตัวเมียจะเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 3 ปี ส่วนตัวผู้ 4-6 ปี ลูกตัวไหนที่อ่อนแอก็อาจจะถูกทิ้งหรือไม่ก็ถูกกินจากสิงโตด้วยกัน ซึ่งก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สิงโตมีอัตราการตายในวัดเด็กค่อนข้างสูง ลูกสิงโตจะเริ่มโตจนหย่านมแม่เมื่อมีอายุ 6-7 เดือน และจะถูกขับออกจากฝูงเมื่ออายุ 13 – 24 เดือน หากเป็นสิงโตอยู่ในป่าธรรมชาติ ตัวผู้อายุเฉลี่ยมักจะอยู่ที่ 12 ปี มากที่สุด 16 ปี ส่วนตัวเมียอายุเฉลี่ยประมาณ 15- 16 ปี มากสุดถึง 18 ปี แต่หากอยู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงนั้นก็อาจจะมีอายุขัยที่มากขึ้น อาจสูงสุดได้ถึง 30 ปีเลยทีเดียว
