“เสือ” อีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในตระกูลเดียวกับแมว ในกลุ่ม Big Cat นอกจากความที่อยู่ในตระกูลเดียวกันแต่ความน่าเกรงขามนี่ห่างไกลกันเยอะ รวมทั้งยังเป็นสัตว์นักล่ากินเนื้อที่มีขนาดและรูปลักษณ์ที่แลดูทั้งสวยงามและดุดันในเวลาเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วเราจะสามารถพบเสือได้ในแถบป่าและทุ่งหญ้าที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ๆ ซึ่งเสือโคร่งเองก็มีหลากหลายสายพันธุ์ได้แก่ เสือโคร่งเบงกอล, เสือโคร่งไซบีเรีย, เสือโคร่งอินโดจีน, เสือโคร่งมลายู , เสือโคร่งสุมาตรา และเสือโคร่งจีนใต้ นอกจากเสือโคร่งแล้วก็ยังมีเสืออีกหลายสายพันธุ์ที่แม้จะอยู่ในตระกูล สกุล Panthera เหมือนกัน หากก็มีความแตกต่างชนิดกันไม่ว่าจะเป็น สิงโต, เสือจากัวร์ และเสือดาว ส่วนเสือชีต้าห์, เสือพูม่า และเสือดาวหิมะก็จะอยู่ในสกุลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Panthera แต่ก็ยังอยู่ในวงศ์ Felidae เดียวกัน
10 เรื่องน่ารู้ของเสือ
- เสือถือเป็นสัตว์ที่จะออกหากินในเวลากลางคืน
- ปกติเสือจะมีความสามารถในการปีนป่ายต้นไม้อย่างดี ยกเว้นเพียงแค่เสือชีต้าห์เท่านั้น
- หากพบเจอเสือที่ป่าไหนจะแสดงให้เห็นว่าป่านั้นมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศอย่างมาก
- จากงานวิจัยด้านพันธุกรรมพบว่า เสือโคร่งอินโดจีนอาจเป็นบรรพบุรุษของเสือโคร่งทุกชนิด
- เสือมีความสามารถในการมองเห็นภาพเป็นมิติได้เหมือนกับมนุษย์และลิง
- เสือโคร่งไซบีเรีย นั้นเป็นสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
- ขนาดหางยาวและใหญ่ของเสือจะแสดงให้เห็นว่าชอบหากินหรือพักผ่อนบนต้นไม้
- ขนาดหางที่สั้นและเล็กของเสือจะแสดงให้เห็นว่าชอบหากินบนพื้นดิน
- เสือจะมีฟันทั้งหมด 28 ซี่หรือ 30 ซี่ ซึ่งถูกพัฒนามาให้เหมาะกับการเป็นสัตว์กินเนื้อ
- เสือชีตาห์เป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก
ปกติแล้วเสือจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างโดดเดี่ยว ยกเว้นก็ช่วงฤดูการผสมพันธุ์เท่านั้นที่จะจับคู่กัน ซึ่งเสือจะสามารถผสมพันธุ์ได้ในช่วงอายุ 2 – 8 ปี และจะมีลูกน้อย บางตัวจะมีลูกเพียง 1 ครั้งในระยะเวลา 2-3 ปีเลยทีเดียว โดยเสือแต่ละประเภทจะมีอายุแตกต่างกันไปอยู่บ้าง อย่างเสือโคร่งจะอายุประมาณ 8 – 10 ปี เสือจากัวร์ 12 – 15 ปี หรือเสือดาว 12 – 17 ปี